ก่อนจะเข้าเรื่อง วานบอกเวปมาสเตอร์ว่า ไอคอนใหม่น่ารักดีครับ ฮิฮิ
อันดับแรกผมขอยกข้อความเรื่อง EGR Exhaust Gas Recirculation จากเวปผู้ใช้รถเครื่องดีเซลมาให้อ่านไว้เป็นพื้นฐานสักสองความเห็นที่ขัดแย้งกัน
ความเห็นแรก....ที่ผ่านมาได้มีการคิดค้นวิธีในการลดมลพิษต่างๆ วิธีหนึ่งคือการใช้ระบบหมุนเวียนไอเสีย Exhaust Gas Recirculation (EGR) ซึ่งในครั้งแรกการใช้ EGR ก็เพื่อจะนำความร้อนจากไอเสียเวียนกลับเข้ามาในเครื่องยนต์ ช่วยให้อุณหภูมิของไอดีสูงขึ้นในกระบวนการเผาไหม้ จึงเป็นการประหยัดพลังงาน แต่ประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มเติมก็คือสามารถลดออกไซด์ของไนโตรเจน (NOX) ได้ด้วยซึ่งก๊าซนี้เป็นอันตรายต่อปอดและระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ ในปี ค.ศ.2002 ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศสหรัฐอเมริกา US Environmental Protection Agency หรือ EPA ได้กำหนดให้ลด NO X ลงอีก 50 % จากมาตรฐานปี ค.ศ 1998 ( จาก 4.0 เป็น 2.0 g / Break Horse -hr.) และ มาตรฐานมลพิษของประเทศอื่นๆ ก็มีแนวโน้มในการลด NO X มากขึ้น จึงทำให้ผู้ผลิตเครื่องยนต์ดีเซลส่วนใหญ่จำเป็นต้องติดตั้งระบบ EGR มากขึ้น แต่ระบบ EGR มีข้อเสียคือความร้อนและสิ่งสกปรกที่เวียนกลับมากับไอเสีย ทำให้เครื่องยนต์มีคราบเขม่าเกาะจับ และน้ำมันเครื่องมีอุณหภูมิสูงขึ้นจึงเสื่อมสภาพเร็ว อีกทั้งมีธาตุกำมะถันและไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบอยู่บางส่วน ทำให้แปรสภาพเป็นกรด เกิดสนิมและเครื่องยนต์สึกหรอมากขึ้น ดังนั้นน้ำมันเครื่องที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลที่ติดตั้ง EGR นี้จะต้องมีความคงทน และ คุณสมบัติพิเศษในการกำจัดสิ่งสกปรก กรดหรือป้องกันสนิมได้ดียิ่งขึ้น
ความเห็นที่สอง....ผู้ใช้รถที่ไม่อุดEGR อาจเป็นเพราะว่าไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์
- กรณีที่วาวล์ EGR ปิดไม่สนิท เพราะเขม่าควัน จะทำให้มีไอเสียเข้าห้องเผาไหม่ตลอดเวลา ทำให้กำลังเครื่องยนต์ลดลง แล้วเมื่อ กำลังเครื่องยนต์ลงลดคนขับก็ต้อง เยียบคันเร่งมากขึ้น เมื่อเหยียบคันเร่งมากขึ้น ก็ต้องกินน้ำมันมากขึ้น ความเร็วรอบมากขึ้น การสึกหล่อก็มากขึ้น มลพิษก็มากขึ้น
*** ลองคิดดูว่าขณะที่ปกติ EGR เปิดเฉพาะที่รอบเครื่องต่ำคล้ายกับว่าเฉพาะที่รถจอดติดเครื่องไว้ไม่ได้วิ่ง (ซึ่งคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่น้อยกว่าตอนรถวิ่งจริง)
*** แต่ถ้า EGR ปิดไม่สนิทตอนที่รถวิ่ง (ซึ่งคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่มากกว่าตอนรถจอดติดเครื่องไว้ไม่ได้วิ่ง)
*** EGR แก้ ปัญหาเฉพาะตอนที่รถจอดติดเครื่อง(ช่วงเวลาสั้นๆ) แต่สร้างปัญหาตอนที่รถวิ่ง (ตลอดระยะเวลาในการเดินทาง)
*** EGR ทำให้เครื่องยนต์สึกหร่อมากกว่าปกติ เพราะปล่อยไอเสียเข้าห้องเผาไหม้ ซึ่งตามการออกแบบเครื่องยนต์ อากาศที่จะเข้าห้องเผาไหม้ได้นั้นต้องผ่านไส้กรองอากาศเพื่อไม่ให้มีฝุ่นแม้เพียงน้อยนิดเข้าไปได้ เพื่อยึดอายุของแหวนลูกสูบ ตัวลูกสูบ กระบอกสูบ วาวล์ บ่าวาวล์ แต่ EGR ดันเอาไอเสียซึ่งเป็นฝุ่นละออง เขม่า ควัน เข้าห้องเผาไหม้ เฉยเลย เอ้า! คิดดู
*** เมื่อ แหวนลูกสูบ ตัวลูกสูบ กระบอกสูบ วาวล์ บ่าวาวล์ สึกหร่อแล้ว กำลังเครื่องยนต์ย่อมน้อยลง น้ำมันเครื่องผ่านแหวนกวาด ผ่านแหวนอัด เข้าห้องเผาไหม้ คราวนี้ซวยเลยครับ ควันเนี่ยดำแบบเดียวกับรถเมล์เก่าๆ คราวนี้ต่อให้ มี EGR 100 ตัว ก็คงเอาไม่อยู่แล้วครับ
*** ถึงเวลาซ่อม ยกเครื่องใหม่ ต้องเปลี่ยน แหวนลูกสูบ ตัวลูกสูบ กระบอกสูบ วาวล์ ฝาวาวล์ แล้วอะไหล่พวกนี้นะครับ ตอนเค้าผลิต คือกระบวนการผลิตย่อมก่อให้เกิดมลพิษทั้งสิ้น แล้วเวลาเมื่อรถซ่อมแล้ว มันจะไม่ทนทานเท่าเดิม เราก็ต้องซ่อมไปเรื่อยๆ เปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อยๆ โรงงานก็ผลิตไปเรื่อยๆ มลพิษก็มากขึ้นเรื่อยๆ รถก็กินน้ำมันมากขึ้น โรงกลั่นน้ำมันก็ต้องผลิตน้ำมันมากขึ้น ย่อมก็ให้เกิดมลพิษมากขึ้นทั้งสิ้น ครับ เอ้า! คิดดู
*** เรามาวิเคราะห์กันครับ วิศวกรอาจจะออกแบบระบบ EGR มาเพื่อให้เครื่องยนต์ที่ผลิตผ่าน มาตรฐาน EURO3 เท่านั้นโดยไม่คำนึงถึงการสึกหร่อและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา หรืออาจจะเป็นผลดีสำหรับโรงงานผลิตอะไหล่ชิ้นส่วนของตัวเองอีกด้วย ได้ขายอะไหล่ด้วย และผ่านEURO3ด้วย ถ้าวิศวกรเสนอมาแบบนี้ CEO รีบอนุมัติแบบไม่คิดชีวิตเลยนะครับ ผลประโยชน์ของบริษัทล้วน เอ้า! คิดดู
*** เรามาคิดดูว่าการบำบัดไอเสียน่าจะมีวิธีอื่นที่ไม่ต้องเอาไอเสียย้อนมาเข้าห้องเผาไหม้ซ้ำอีกครั้ง ได้ไหม เช่น สร้างตัวเผาไหม้ไอเสียโดยเฉพาะติดตั้งภายนอก อาจจะเอาติดไว้ที่ท่อไอเสียก็ได้
สำหรับข้อความด้านบนคือเสียงของผู้ใช้รถเครื่องดีเซล ซึ่งมี ระบบหมุนเวียนไอเสีย Exhaust Gas Recirculation (EGR) และที่แน่ๆ ซูบารุรุ่นใหม่ๆ ก็มีระบบนี้กับเขาด้วยในทุกรุ่น เพื่อให้ผ่านมาตราฐาน ยูโรสามนั่นเอง
เครื่องอิมหน้าแมว และตัวอื่นๆ รวมทั้ง WRX ทุกตัวล้วนมีระบบนี้ทั้งนั้น ลักษณะคือบริเวณฝาสูบก่อนถึงท่อร่วมไอเสีย(เฮดเดอร์)
จะมีรูที่ต่อท่อขึ้นมาด้านบน ( รูที่ต่อก็ต่อดื้อๆเลยไม่มีกลไกอะไรทั้งนั้นครับ แค่เป็นท่อนำไอเสียเท่านั้นเอง )
ท่อที่ขึ้นมานี้จะมาเข้าบริเวณใต้ชุดท่อร่วมไอดี แต่มันไม่ได้มาเข้าในชุดท่อร่วมไอดีดื้อๆนะครับ ผมหงายด้านหลังท่อร่วมไอดีดูพบว่า
เจ้าไอเสียที่ขึ้นมาจากท่อนั้นจะมีท่อของมันเองแล้วเข้ามาผ่านตัว EGR ดังรูปที่ลงไว้ครับ
(ตัวสีดำทะมึนนั่นแหละ....)
แล้วเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ก็จะมีวาล์วเปิดปิดให้ไอเสียไหลเข้ามาในท่อร่วมไอดีได้ ลักษณะน่าจะตามการสั่งจากกล่อง ECU เพราะเป็นระบบไฟฟ้า