เป็นได้สิครับ ผมก็มีเพื่อนเป็นพ่อค้า ตั้งหลายคน
แต่ผมจะไม่เป็นเพื่อนกับ คนที่ใจแคบครับ มันแคบอ่ะ อึดอัด
เลยพยายามหาเพื่อนที่กว้างๆเข้าไว้ เจอแคบเมื่อไหร่ หนีครับ
พ่อค้าบางคนก็โอเคนะ ผทก็ขับรถหลายคันนะ(ไม่ได้อวดรวย) แล้วก็เข้าหลายอู่. หลายร้าน. อะไรมีของแต่งของซ่อมผมไปหมด อยู่ที่ว่าจะไปซื้อแค่ครั้งเดียวพอหรือมีแมมเบอรที่นั่น
พ่อค้าบางคนใจมันแคบยิ่งกว่าง่ามตูดอีก ประเภทขายแล้วทิ้งเลยไม่สนใจการดูแลหลังการขาย พอมีปันหาอะไรจะเปลี่ยนหรือคืนของภายใต้เงื่อนไขที่ตกลงกันแล้ว กลับมีข้ออ้างใหลไปทั่วเพื่อบิดเบือน
หรือขายของโดยที่สลับระหว่าง ของแต่งและของธรรมดา ของดีกับของไม่ดี โดยที่ผู้ซื้อก็ไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไรบ้าง (ตัวอย่างหัวตัด) แต่ก็โดนสลับก่อนส่งมอบ. อันนี้มันผิดที่สามัญสำนึกผู้ขายที่เอาความเชื่อใจที่มีให้มาเอาเปรียบผู้ซื้อ
ในส่วนของพ่อค้าเองก็ลองมองตัวเองด้วยนะว่า คุณนรักษาลูกค้าเดิมๆไว้ได้มั้ย หรือมองว่าเค้ามาซื้อครั้งเดียวแล้วไป แล้วถ้าซื้อครั้งเดียวแล้วไปนั่นมันบ่งบอกว่าอะไร คุณน่าจะรู้อยู่แก่ใจ
ผมได้ยินบ่อยมากและเคยเจอกับตัวเองประมานว่า"ซื้อครั้งเดียวกูพอล่ะ" ถ้าพ่อค้าทำให้ลูกค้าบอกต่อๆกันไปได้ว่ามีมาตรฐานของพ่อค้า" นั่นแหละเค้าเรียกว่าเป็นพ่อค้าจริงๆ "
และที่สำคัญเรื่องของการบริการหลังการขายนี่ก็สำคัญที่สุด ผมให้ใจกับทุกคนแต่ก็แพ้เล่เหลี่ยมจนใด้
ผมไม่ได้มาโจมตีพ่อค้า พ่อค้าบางคนก็ดีมากๆดีจนอยากจูบปากทุกครั้งเวลาจ่ายเงินแล้วได้ความสบายใจ แต่บางคนจ่ายเงินเพราะไม่มีตัวเลือก แต่ในเมื่อเปิดประเด็นกันผมก็โอเคนะ ผมชอบ
คุนลองมองย้อนจริงๆนะครับว่า พ่อค้าที่คุนกล่าวถึงเนี่ย "ดีอย่างที่คุณพูดทั้งหมดมั้ย หรือคุณไม่รู้จริงๆว่าโดนอะไรไปบ้างเหตุเพราะความไว้ใจที่พ่อค้ามากเกินไป เลยไม่สนใจ"
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้โจมตีพ่อค้านะครับ. ผมหมายถึงคนบางกลุ่ม และคนไกล้ตัวผมเท่านั้น และมีหลายๆคนที่บ่นให้ผมฟังเช่นกัน
ด้วยจิตแอ๊บเบ้ว.
น้ำกามเสือดำ