ต่อๆ
พอทำงานนานๆเข้า ลูกค้าโทรหาเราบ่อยๆ เราก็เอางานเข้าบริษัท แต่มันเริ่มต้น bossmaตรงที่ ช่วงหลัง ไม่เอางานเข้าบริษัท แต่กลับโอนงานให้ที่อื่นทำ แล้วกินค่าคอม30% ทำแบบนี้จนตัวเองไม่ค่อยทำงานให้บริษัทตัวเอง แต่จะหนีไปคุมงานที่รับรับแล้วให้ที่อื่นทำ
ช่วงนั้นรายได้ต่อเดือนเกือบแสน เลยมีความคิดที่อยากลงทุนทำเอง ตอนนั้นมีเงินเก็บ 450000 เลยซื้อรถกระมือสอง แล้วลงของนิดหน่อย
ยิ่งทำลูกค้ายิ่งชอบ เพราะเราช่างพูด ช่างโม้ มีอยู่งานนึงเป้นงานใหญ่ งบเกือยห้าแสน แต่ของเราไม่พอ เลยกัดฟันโทรหาพ่อครั้งแรก ตั้งแต่หนีออกจากบ้าน แล้วของเงินทุนก้อนแรก 3 ล้าน มาลงอุปกรณ์แล้วเช่าตึกแถวเก็บของ แล้วทำหนักเข้าๆ จนอุปกรณ์ของเราเยอะกว่าบริษัทตัวเอง จนเจ้านายรูเรื่องว่าเราแอบทำเอง เค้าเลยเชิญให้ออก เราก็ออก แต่ก็เสียใจที่เนรคุณเค้ามา แต่อย่างว่านะครับ*เบื่อการก้มหน้ารับเงินเดือนตายตัว*เลยคิดแค่เพียง เราต้องเป็นนายคนให้ได้ จนพ่อเสียไปตอนนั้นผมเครียดมากที่พ่อเสียเพราะไม่เคยไปหาแกเลย ด้วยความโกรธที่ท่านส่งเราไปอยู๋กับป้า
ด้วยความที่เป็นลูกคนโต และมีน้องชายอีกคน สมบัตรทั้งหมด เลยต้องตกเป็นของผมและน้อง ไร่ส้มทั้งหมด650ไร่ บ้านสองหลัง ฟาร์มไก่9000ตัว เงินในบันชีอีก10กว่าล้าน
ด้วยความที่เราเป็นครอบครัวใหญ่ มีป้าและอาๆน้าๆเยอะ เราเลยให้เค้าจัดการทุกอย่าง เราขอแค่เงินลงทุน 6 ล้าน
จนถึงทุกวันนี้ ทำงานด้วยความลำบากตรงที่ต้องคอยแข่งขัน กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ตอนนี้ถ้าคิดมูลค่าอุปกรณ์ในบริษัทก็ตก25ล้าน และต้องดูแลคนงาน 36 คน บ่อยมากที่รับ5จ่ายหกทุกเดือน แต่ก็ยังดีตรงที่ เป็นนายตัวเอง ไม่ต้องก้มหน้ารับเงินเดือนใคร ขายรถก็เยอะ ขายบ้านก็บ่อย จำนำรถก็มาก แต่ก็พยายามปิดครอบครัวตัวเองว่า เราไม่ลำบาก เพราะเงิน6ล้านที่เอามา จริงอล้วก็ไม่อยากเอา แต่บริษัทต้องแข่งขันต่อ
ลืมบอกผมก็จบแค่ ปวส จะเรียนต่อหลายรอบ ก็มัวแต่บ้านงานอยู๋แบบนี้ ถอยก็ลำบากลูกน้องเยอะสงสารเค้า เดินต่อก็ต้องผ่านปัญหาให้ได้
แต่ก็ยังดีตรงที่เราทำฝันตัวเองได้ จากเด็กปอกผัก จนเป็นBOSS
ใครที่อ่านจนจบก็อย่างงกับภาษาที่ใช้ เพราะผมตาลายในการพิม ขออภับหากพิมไม่ประติดประต่อ เพราะผมเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง