มาต่อผมบ้าง ...
ด้วยความที่ไม่คิดถึงเรื่องต้องผ่อนรถ
หลังจากได้แอคคอร์ดคันนั้นมา พร้อมแลกกับเงินผ่อนต่อเดือนอีก 6000 บาท เงินเดือนปรับมาเป็น 12000 เชี่ย ใจดีโคตร เพิ่มให้กรู 500 บาท
หายไปครึ่งละกับผ่อนรถ ค่าเช่าห้องอีก 3000 สรุปต่อเดือนคือ ไม่พอใช้ เวรรร ทำไงล่ะนี่ เลยบ้าเลือด ขายของหนัก พอได้คิมมิชชั่นมาผ่อนปรนบ้าง
เอาตังจากบัตรเครดิตมาใช้บ้าง อู้ยยย ดอกแสนแพง แต่ก็ถูๆไถๆ ไป พอหมดปี อ้้าวววขายของทะลุเป้า 15 ล้าน วู้ววว ได้ตังแล้วโว้ยยย ได้มาแสนเก้า โล่งครับโล่ง
ปีถัดมาเลยเจอเป้า 22 ล้าน อ๊ากกกก แล้วกรูจะทำได้ฟระ ระหว่างนั้นได้โอกาสรู้จักพี่เบนซ์ เริ่มได้มีโอกาสสัมผัสกับ ซูบารุ จริงๆ ที่ไม่ใช่ในเกม
จังหวะนึงเลยได้เลกาซี่พี่เบนซ์มาดูแลต่อ โอ้ยยย มีความสุข รถอะไรวะ มันดีอย่างนี้ ช่วงนั้นยังห้าว ขับรถนี่อย่างเหาะ คิดว่าเก่ง จิงๆ ไม่ใช่
จำได้ ออกทริปครั้งแรกกับ เพื่อนๆชาวซุ วิ่งลอยฟ้าบางนา (ตอนนั้นรถเราเครื่อง NA) วิ่งหวดกะจีซี กะเขาได้หมด ใช้ใจวิ่งล้วนๆ
จนอยู่มาวันนึง ประสบพบเจอกับอุบัติเหตุ อย่างหนัก แต่เพราะคนอื่นนะครับ ไม่ใช่ความห้าวของเราเอง (ความห้าวของเรามาเจอในตอนหลัง เดี๋ยวจะเหลาให้ฟังอีกที)
เข้าโรงบาล ช้ำในจากโดนวอลโว่สอย ประตูหุบมาอยู่ในรถ ตัวผมไปนั่งอยู่บนคันเกียร์ หน้าหลัง ยุบ สรุปคือเละ เหตุการณ์เกิดขึ้นบนสะพานแขวนพระรามเก้า
ตอนกำลังจะขับกลับบ้านนอก รถติดบรรลัยเพราะผม
หายนะมาเยือนหลังจากนี้ล่ะครับ ประกันซ่อมได้เท่าที่ครอบคลุม ที่เหลือ จ่ายเอง งานเข้า ต้องจ่ายเองแสนกว่าบาท ตอนนั้นไม่ขายซากคครับ เพราะคิดแล้ว ไม่คุ้ม แถมไม่มีรถขับ
เลยต้องซ่อม ฮ่าๆๆ สรุปมาเจอเครื่องพังอีก คันนัก อยากแรง กัดฟัน วางคอแดงไปเล้ยยยย ตังก็หามาจากบัตรเครดิตล่ะครับ ฮี่ๆๆๆ เป็นหนี้หัวโต ซวยแน่ๆ
อ่าาา เข้าเรื่องกลับมานั่งทำงานได้เหมือนเดิมละ พอหายดี ก็เริ่ม กลับมาวิ่งขายของต่อ จับโปรเจคได้งานนึง 13 ล้าน หวังว่าปีนี้ตรูรอดละ งานเดียวสบายเลย
ลูกค้ง ลูกค้าสนิทกัน วางหมากวางเกมไว้หมดแล้ว ยังไงก็ไม่พลาด งานนี้กินนิ่ม แน่นอน แต่ๆๆๆๆ เหรียญมีสองด้าน ลูกค้าหน้างานอ่ะโอเค
แต่นายใหญ่นายโต เขามีกำลังภายในกันอยู่กับคู่แข่งเรา เรารู้เกมอยู่แล้ว วิธีแก้ลำก็มีอยู่อยู่แล้ว โอ๊ยยย สบายขอเพียงแค่นายเราเอาด้วย ก็จบ
เดี๋ยวมาเล่าต่อ....