ผู้เขียน หัวข้อ: หัวฉีดชมพูกับเครื่องตากลมคอขาว  (อ่าน 1608 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ intrinsic

  • *
  • กระทู้: 184
  • Popular Vote : 11
    • อีเมล์
หัวฉีดชมพูกับเครื่องตากลมคอขาว
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2013, 01:52:51 PM »
ถ้าจะเปลี่ยนต้องทำอะไรกับเครื่องเพิ่มไม๊ครับ ต้องแฟลชกล่องใหม่หรือปล่าวหรือเปลี่ยนได้เลย รบกวนหน่อยครับ :bbbear_19:

ออฟไลน์ Kmitl@Ku

  • Boxer's Farmer. เกษตรกรไทยหัวใจบ็อคเซอร์
  • *
  • กระทู้: 710
  • Popular Vote : 26
  • Gc OTOP
Re: หัวฉีดชมพูกับเครื่องตากลมคอขาว
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 05, 2013, 04:07:22 PM »
ควรครับ เพราะกล่องสั่งฉีดในเปอร์เซ็นเท่าเดิม แต่ขนาดมันใหญ่ขึ้นน้ำมันก็จะลงไปในกระบอกสูบมากขึ้น ปริมาณส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศเปลี่ยนไป คือ ปริมาณอากาศเท่าเดิมและองศาไฟจุดระเบิดเท่าเดิมแต่ปริมาณน้ำมันมากขึ้น(ยกตัวอย่างเช่น  เปอร์เซ็น  การไหลของน้ำมันเท่าเดิมแต่ขนาดของท่อส่งโตขึ้นดังนั้นในระยะเวลาเท่ากันท่อที่โตกว่าก็จะมีปริมาณน้ำมันเยอะกว่า )  ส่งผลให้การเผาไหม้ไม่เหมือนเดิม(ส่วนผสมน้ำมันกับอากาศไม่เหมือนเดิมแบบที่เค้าชอบเรียกกันว่า A/F มันเพี้ยน)  ส่วนมากจะหน้าขึ้นทำให้กินน้ำมันขึ้น แต่ผมไม่ทราบวัตถุประสงค์ในการเปรียนหัวฉีดของเจ้าจองกระทู้ แต่ถ้าจะเปรียนเพื่อต้องการเพิ่มบูทมากขึ้นทำได้หรือป่าวทำได้แต่เสี่ยงมากเพราะเราไม่สามรถที่จะรู้ว่าจริงๆแล้ว ณ ตอนนั้นอัตราส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศเป็นอย่างไรจะหน้า หรือว่าบาง แล้วจุดไหนละที่จะทราบว่ามันเป็นจุดที่สมดุลที่สุดที่จะทำให้รถเราวิ่งดีไม่พัง 
 สรุปง่ายๆเลย เพื่อความสมบุณ์วิ่งดีไม่พัง และใช้ของที่มีอยู่ได้เต็มประสิทภาพ จูน เป้นที่ที่สุดแต่ไหนๆจะจูนแล้วจะทำไรเพิ่มก็ทำทีเดียวเลยครับ เช่น เปรียนโบ ท่อ เฮดเดอร์ กรองเปลือย อ๋อ อีกอย่างสำคัญมาก  การจูนรถไม่ใช่การทำให้รถวิ่งดีขึ้นนะครับ แต่เป็นการเค้นประสิทธิภาพของที่เรามีอยุ่ให้แสดงออกมา เพราะฉะนั้นจะแรงขึ้นหรือไม่แรง จะพังหรือไม่พังก้ขึ้นอยุ่กับของที่เรามีและคุณภาพของของที่มีอยู่ ณ ตอนนั้น เช่นโบใกล้พัง ก็จะพังได้ เครื่องเริ่มหลวม ก็จะควันขาว ชาร์ปเริ่มกร่อน ก็จะละลายได้ ขึ้นอยู่กับ จุนเนอร์ว่าเค้าจะเค้นเครื่องเราแค่ไหน เค้นมากก็เสื่อมมาก เสื่อมมากก้จะพังเร็วขึ้น  ก่อนจูนต้องคุยกับคนจูนให้เคลียก่อนทุกเรื่องนะครับจะได้ไม่มีปัญหากัน 

  อาจจะต้องขอโทษด้วยจะครับถ้าอ่านแล้วมันงงๆ เพราะผมเป็นคนสื่อสารในการเขียนกับคนอื่นเข้าใจยาก แต่ก็พยายามแหละครับ โชคดีนะครับ  :bbbear_7:

ออฟไลน์ intrinsic

  • *
  • กระทู้: 184
  • Popular Vote : 11
    • อีเมล์
Re: หัวฉีดชมพูกับเครื่องตากลมคอขาว
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 07, 2013, 07:43:59 AM »
ควรครับ เพราะกล่องสั่งฉีดในเปอร์เซ็นเท่าเดิม แต่ขนาดมันใหญ่ขึ้นน้ำมันก็จะลงไปในกระบอกสูบมากขึ้น ปริมาณส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศเปลี่ยนไป คือ ปริมาณอากาศเท่าเดิมและองศาไฟจุดระเบิดเท่าเดิมแต่ปริมาณน้ำมันมากขึ้น(ยกตัวอย่างเช่น  เปอร์เซ็น  การไหลของน้ำมันเท่าเดิมแต่ขนาดของท่อส่งโตขึ้นดังนั้นในระยะเวลาเท่ากันท่อที่โตกว่าก็จะมีปริมาณน้ำมันเยอะกว่า )  ส่งผลให้การเผาไหม้ไม่เหมือนเดิม(ส่วนผสมน้ำมันกับอากาศไม่เหมือนเดิมแบบที่เค้าชอบเรียกกันว่า A/F มันเพี้ยน)  ส่วนมากจะหน้าขึ้นทำให้กินน้ำมันขึ้น แต่ผมไม่ทราบวัตถุประสงค์ในการเปรียนหัวฉีดของเจ้าจองกระทู้ แต่ถ้าจะเปรียนเพื่อต้องการเพิ่มบูทมากขึ้นทำได้หรือป่าวทำได้แต่เสี่ยงมากเพราะเราไม่สามรถที่จะรู้ว่าจริงๆแล้ว ณ ตอนนั้นอัตราส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศเป็นอย่างไรจะหน้า หรือว่าบาง แล้วจุดไหนละที่จะทราบว่ามันเป็นจุดที่สมดุลที่สุดที่จะทำให้รถเราวิ่งดีไม่พัง 
 สรุปง่ายๆเลย เพื่อความสมบุณ์วิ่งดีไม่พัง และใช้ของที่มีอยู่ได้เต็มประสิทภาพ จูน เป้นที่ที่สุดแต่ไหนๆจะจูนแล้วจะทำไรเพิ่มก็ทำทีเดียวเลยครับ เช่น เปรียนโบ ท่อ เฮดเดอร์ กรองเปลือย อ๋อ อีกอย่างสำคัญมาก  การจูนรถไม่ใช่การทำให้รถวิ่งดีขึ้นนะครับ แต่เป็นการเค้นประสิทธิภาพของที่เรามีอยุ่ให้แสดงออกมา เพราะฉะนั้นจะแรงขึ้นหรือไม่แรง จะพังหรือไม่พังก้ขึ้นอยุ่กับของที่เรามีและคุณภาพของของที่มีอยู่ ณ ตอนนั้น เช่นโบใกล้พัง ก็จะพังได้ เครื่องเริ่มหลวม ก็จะควันขาว ชาร์ปเริ่มกร่อน ก็จะละลายได้ ขึ้นอยู่กับ จุนเนอร์ว่าเค้าจะเค้นเครื่องเราแค่ไหน เค้นมากก็เสื่อมมาก เสื่อมมากก้จะพังเร็วขึ้น  ก่อนจูนต้องคุยกับคนจูนให้เคลียก่อนทุกเรื่องนะครับจะได้ไม่มีปัญหากัน 

  อาจจะต้องขอโทษด้วยจะครับถ้าอ่านแล้วมันงงๆ เพราะผมเป็นคนสื่อสารในการเขียนกับคนอื่นเข้าใจยาก แต่ก็พยายามแหละครับ โชคดีนะครับ  :bbbear_7:


โห....เห็นภาพ.....เคลียร์ครับ ขอบคุณมากก